DIY Health & Clean เปิดวิธีดูแลห้องน้ำง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

2020-10-27

 

DIY Health & Clean

เปิดวิธีดูแลห้องน้ำง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

 

เมื่อพูดถึงการ “ล้างห้องน้ำ” ทีไร หลายๆ คนคงอยาก Say NO! ขอข้ามไปทุกที เพราะห้องน้ำหนึ่งห้องนั้นมีอุปกรณ์ประกอบอยู่ในนั้นมากมาย แต่ละชิ้นก็มีวัสดุที่แตกต่างกัน ไหนจะคราบสกปรกฝังลึกที่ยากจะขัดออก การจะทำดูแลความสะอาดให้เหมือนใหม่จึงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากจนอยากร้องยี้!

เอาล่ะ... ก่อนที่จะมีใครร้องไห้เพราะต้องทำความสะอาดห้องน้ำ วันนี้ COTTO ก็มีทริคดีๆ ในการดูแลพื้นที่สำคัญดังกล่าว ที่คุณสามารถ DIY ทำได้ด้วยตัวเอง มาเปิดวิธีการดูแลบรรดาอุปกรณ์ในห้องน้ำอย่างถูกต้อง เพื่อให้ห้องน้ำเป็นพื้นที่ Health & Clean ที่สะอาด ปลอดภัย และดีต่อสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัว ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสุขภัณฑ์ต่างๆ ให้ใช้งานได้ยาวนานกันดีกว่า

 

1. พื้นและผนังห้องน้ำ

พื้นและผนังห้องน้ำ เป็นจุดที่มีคราบสกปรกเกาะติดมากแบบเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่วนใหญ่มาจากฟองสบู่ หรือยาสระผมที่เราใช้ชำระล้างร่างกาย จึงมักจะมีคราบไคลของเราติดไปด้วย คราบเหล่านี้เป็นอาหารชั้นดีให้กับเชื้อแบคทีเรีย เมื่อประกอบกับความชื้นภายในห้องน้ำ รวมถึงอุณหภูมิอบอุ่น ก็จะยิ่งทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว พื้นและผนังห้องน้ำจึงเป็นจุดใหญ่ที่รวมเชื้อโรคไว้มากที่สุดอีก เราจึงควรทำความสะอาดพื้นและผนังห้องน้ำเป็นประจำ ด้วยวิธีต่อไปนี้

 

วิธีทำความสะอาดพื้นและผนังห้องน้ำ

 

 

  • โดยปกติแล้วสามารถใช้น้ำสะอาดในการเช็ดถูกระเบื้องได้ แต่ถ้ามีคราบฝังแน่นที่จำเป็นต้องใช้น้ำยาที่แรงขึ้น ให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดจากธรรมชาติ ที่ใช้สำหรับการทำความสะอาดกระเบื้องและยาแนวโดยเฉพาะ หรือใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์ด่างอ่อนๆ เพื่อถนอมกระเบื้องให้ยาวนาน
  • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่ออกฤทธิ์รุนแรงทั้งชนิดกรดและด่างที่มีความเข้มข้นสูง เพราะยิ่งใช้บ่อยอาจยิ่งทำลายสารป้องกันสิ่งสกปรกที่เคลือบผิวกระเบื้องอยู่
  • สามารถใช้แปรงขัดชนิดมือจับที่ขนทำมาจากไนลอนหรือพลาสติกได้ เพราะวัสดุสองประเภทนี้จะไม่ขูดขีด ทำลายผิวกระเบื้อง
  • ไม่ควรทิ้งคราบสบู่ หรือคราบฟองจากน้ำยาใดๆ ไว้บนพื้น ควรฉีดล้างด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง เพราะฟองเหล่านี้จะทำให้กระเบื้องเกิดคราบสกปรก และไม่ดีต่อคุณภาพในระยะยาว

 

พื้นและผนังห้องน้ำควรทำความสะอาดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และในทุกๆ วันหลังอาบน้ำเสร็จ ควรเปิดประตูห้องน้ำเพื่อระบายอากาศ ลดความชื้น ก็จะช่วยชะลอการเกิดคราบสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ ได้ หรือเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นและผนังที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย ก็จะช่วยให้คุณมั่นใจในความสะอาดและมีสุขอนามัยที่ดีได้ทุกวัน

 

กระเบื้อง Hygienic

ให้ทุกย่างก้าวปลอดภัยจากเชื้อแบคทีเรีย

 

 

  • เทคโนโลยีพิเศษที่ยับยั้งถึงต้นตอของแบคทีเรีย ด้วย Silver Nano ที่อยู่ในชั้นสีของกระเบื้อง ซึ่งจะส่งประจุบวกเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ได้ผลมากกว่า 90%
  • ไม่สะสมสิ่งสกปรก จึงทำความสะอาดได้ง่ายกว่ากระเบื้องทั่วไป
  • ปราศจากไอระเหยที่เป็นพิษในอากาศ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารปนเปื้อน ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

 

2. สุขภัณฑ์

คุณคิดว่าบริเวณไหนของชักโครกที่พบเชื้อโรคมากที่สุด? หลายคนอาจคิดว่าเป็นโถด้านใน หรืออาจจะเป็นฝารองนั่ง ทั้งสองที่นี้มีเชื้อโรคมากก็จริง แต่มีอีกจุดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักคิดไม่ถึง และละเลยในการทำความสะอาด จนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค นั่นก็คือ “ปุ่มกดชักโครก” ซึ่งจากการศึกษา*พบว่า เจ้าปุ่มกดชักโครกนี้มีเชื้อ S. aureus และเชื้อฟีคัลโคลิฟอร์ม (Faecal coliform bacteria) สุดโหด ถ้าหากเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดอาการถ่ายเป็นน้ำ เป็นมูกเลือดได้เลยล่ะ แต่ไม่ใช่ว่าที่ปุ่มกดจะมีเชื้อโรคที่เดียวนะ เพราะภายในโถชักโครกไปจนถึงฝารองนั่งก็ยังอุดมด้วยเชื้อชนิดเดียวกันนี้ด้วย

นอกจากนี้ การกดชักโครกโดยไม่ปิดฝาครอบก็ยังอันตรายกว่าที่คิด เพราะอาจทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายได้ คราวนี้ถ้าเราไปสัมผัสโดนเชื้อโรค และเผลอนำมือที่สกปรกไปหยิบจับอาหารเข้าปาก ก็อาจเจอโรคท้องร่วงและลำไส้อักเสบมาทักทายได้ เราจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดชักโครกอยู่เสมอ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้งานในทุกๆ เวลา


วิธีทำความสะอาดสุขภัณฑ์

 

 

 

                ก่อนจะลงมือจัดการกับเจ้าเชื้อโรคตัวร้ายที่ชักโครก สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือ การเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดให้เหมาะสมกับวัสดุของชักโครก โดยส่วนใหญ่แล้วตัวชักโครก รวมถึงถังพักน้ำมักทำมาจากเซรามิก ในขณะที่ฝารองนั่งมักทำมาจากพลาสติก ซึ่งมีวิธีการทำความสะอาดดังนี้

 

โถสุขภัณฑ์

  • ผสมน้ำยาทำความสะอาดกับน้ำเปล่า หากน้ำยาทำความสะอาดมีปริมาณกรดไฮโดรคลอริก 15% ขึ้นไป ให้ผสมน้ำยา : น้ำเปล่า ในอัตราส่วน 1 : 1 แต่หากมีปริมาณกรดไฮโดรคลอริกต่ำกว่า 15% ให้ผสมน้ำยา : น้ำเปล่า ในอัตราส่วน 1 : 0.5 (ดูปริมาณกรดไฮโดรคลอริกที่ฉลากผลิตภัณฑ์)
  • เทน้ำยาที่ผสมน้ำแล้วลงบนชักโครกด้านใน จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ 5-10 นาที
  • ระหว่างนั้นมาทำความสะอาดโถชักโครกด้านนอกกันไปพลางๆ โดยใช้แปรงขนนุ่มจุ่มน้ำยาที่ผสมไว้ ค่อยๆ ขัดไปตามโถชักโครกด้านนอก ถ้าเจอคราบสกปรกฝังแน่น ให้เทน้ำยาทิ้งไว้ แล้วจึงขัดออกอีกครั้ง ส่วนซอกมุมที่แปรงใหญ่เข้าไม่ถึงให้ใช้แปรงขนนุ่มขนาดเล็กแทน
  •  เปิดฝาชักโครก แล้วใช้แปรงด้ามยาวขัดถูชักโครกด้านในที่เทน้ำยาทิ้งไว้ อย่าลืมขัดตามซอกบนๆ ของชักโครก และ ขอบของชักโครกด้วย แต่ถ้าใช้ชักโครกที่เป็นขอบแบบ Rimless ก็แทบไม่ต้องเปลืองแรงตรงนี้เลย เพราะแปรงจะเข้าไปทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
  • ใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดน้ำยาให้หมด ทั้งด้านในและด้านนอกชักโครก

 

ฝารองนั่งและฝาปิด

  • ฝารองนั่งและฝาปิดที่เป็นพลาสติก ให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำเปล่า อัตราส่วน 1 : 1 ใช้แปรงขนนุ่มจุ่มน้ำยา นำมาขัดทำความสะอาดเบาๆ และล้างด้วยน้ำเปล่าจนหมดฟอง
  • ระวัง!! ห้ามใช้น้ำยาชนิดกรดในการทำความสะอาดส่วนพลาสติก เพราะอาจทำลายเนื้อพลาสติกจนเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผิววาวๆ สวยงามก็อาจแห้งกรอบ จนต้องเปลี่ยนใหม่ในที่สุด

 

ปุ่มกดสุขภัณฑ์

  • ผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำเปล่า อัตราส่วน 1 : 1 ใช้ผ้าชุบน้ำยาและน้ำมาเช็ดที่ปุ่มกดชักโครก เพื่อฆ่าเชื้อเป็นอันดับสุดท้าย

 

ชักโครกเป็นสิ่งที่ตัวเราต้องสัมผัสอยู่ทุกวัน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรทำความสะอาดอาทิตย์ละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย และถ้าอยากลดความเสี่ยงจากการสัมผัสปุ่มกดน้ำ อาจเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีระบบ Touchless โดยการสั่งงานผ่านระบบ ไร้สัมผัสก็ได้ และหากชักโครกด้านในมีการเคลือบสารที่ป้องกันคราบสกปรกเกาะติด ก็จะช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และเสี่ยงกับเชื้อโรคน้อยลงอีกด้วย

 

สุขภัณฑ์ Touchless & Ultraclean+

ไม่ต้องสัมผัส ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อโรค

 

 

 

Touchless Series

  • ใช้งานสะดวกและปลอดภัย สั่งฟลัชน้ำโดยการโบกมือระยะ 2.5 - 4 ซม. ผ่าน “Unit Sensor Flush” ที่ติดตั้งตรงไหนของห้องน้ำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นด้านหลัง  ทำให้สะดวกไม่ต้องเอี้ยวตัวแบบผิดสรีระ
  • ออกแบบป้องกันความชื้นของแบตเตอรี่ด้วย Waterproof sleeve IPX7
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องการอุดตันของตะกรัน เพราะมี Filter ช่วยกรองอีกขั้น
  • เปิดปิดวาล์วโดยใช้ Hydraulic จึงประหยัดน้ำมากกว่าเดิม

 

Ultraclean+

  • ผิวชักโครกด้านในเคลือบสารที่ทำให้ลดช่องว่างในการเกาะติด ทำให้ผิวโถเรียบลื่นยิ่งขึ้น ช่วยลดการเกาะติดของเชื้อโรค
  • ผสมสาร Silver Ion ที่ทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรีย ลดการเจริญเติบโต และลดการสะสมแบคทีเรียได้ถึง 99% ภายใน  24 ชม. 
  • สารเคลือบคงทนยาวนานถึงเนื้อในเซรามิก ด้วยเทคนิคเฉพาะในขั้นตอนการผลิต

 

3. สายฉีดชำระ

มาถึงอุปกรณ์ในห้องน้ำอีกชิ้น นั่นก็คือ “สายฉีดชำระ” ที่เรามักปล่อยผ่าน ไม่ทำความสะอาด อาจเพราะเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็ก และดูไม่น่าจะสกปรกอะไร แต่จากการศึกษา* กลับพบว่า ที่จับสายฉีดชำระนั้นพบเชื้อโรคมากที่สุด! อย่างเช่นเชื้อ Escherichia coli ที่ไม่ดีต่อใจสักนิด เพราะทำใจเกิดการถ่ายอุจจาระที่มากกว่าปกติถึง 3 ครั้งขึ้นไป หนักกว่านั้นคือถ่ายเป็นน้ำหรือเป็นมูกเลือด นอกจากนี้ บริเวณหัวฝักบัวของสายฉีดก็อาจมีเชื้อแบคทีเรียที่ติดมาจากการขับถ่ายของผู้ใช้งานอีกด้วย ดังนั้น การทำความสะอาดสายฉีดชำระจึงเป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ ในห้องน้ำ โดยมีวิธีการง่ายๆ ดังนี้


วิธีทำความสะอาดสายฉีดชำระ

 

 

  • ผสมน้ำยาฟอกขาว : น้ำเปล่า ในอัตราส่วน 1 : 0.5 ใช้ผ้าชุบน้ำยาที่ผสมแล้ว เช็ดทำความสะอาดบริเวณที่ฉีดชำระ สายฉีด และที่จับ เพราะน้ำยาฟอกขาวมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้
  • ที่ฉีดชำระบ้านไหนสายน้ำไม่นุ่มนวลหรือไหลไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะมีตะกรันเกาะปิดรูฝักบัวอยู่ ให้ผสมน้ำส้มสายชู : เบกกิ้งโซดา อัตราส่วน 1 : 1 ใส่ในแก้ว แล้วนำส่วนหัวฝักบัวของที่ฉีดชำระจุ่มแช่ลงไป ทิ้งไว้ 15 – 20 นาที จากนั้นใช้แปรงขนนุ่มขัดตามรูฝักบัว จะช่วยขจัดตะกรันฝังค้าง เพื่อให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ล้างอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยน้ำเปล่า

 

สายฉีดชำระควรทำเป็นประจำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ส่วนการกำจัดคราบตะกรัน ควรทำเดือนละ 1 ครั้ง แต่เราสามารถใช้งานสายฉีดชำระได้ปลอดภัยด้วยวิธีง่ายๆ คือฉีดน้ำจากสายชำระทิ้งก่อนใช้งานทุกรอบ เพื่อกำจัดแบคทีเรียที่อาจติดอยู่ที่หัวฝักบัว หรือเพิ่มความสะดวกสบายและรักษาความสะอาดให้ดีที่สุด ด้วยการเลือกใช้สุขภัณฑ์ที่มีระบบฉีดชำระอัตโนมัติ ที่มีระบบทำความสะอาดที่ฉีดในตัว ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยอีกทางหนึ่ง

 

สุขภัณฑ์ชิ้นเดียว “Optimum”

ควบคุมทุกฟังก์ชันผ่านรีโมทเพียงหนึ่งเดียว

 

 

 

  • สุขภัณฑ์ที่ครบทั้งฟังก์ชันและดีไซน์สุดล้ำ ตอบทุกโจทย์อย่างลงตัวที่สุด ควบคุมการทำงานผ่านรีโมตเพียงอันเดียว
  • ก้านฉีดชำระสเตนเลสผสมสารป้องกันแบคทีเรีย มาพร้อมระบบ UV Sterilization ที่ช่วยให้ผู้ใช้เกิดสุขอนามัยสูงสุดในทุกครั้งของการใช้งาน
  • ระบบทำความสะอาดตัวเองของก้านฉีดจำนวน 3 ครั้ง คือเมื่อเริ่มใช้งานสุขภัณฑ์, เมื่อกดคำสั่งใช้งานก้านฉีด และเมื่อใช้งานก้านฉีดเสร็จสิ้น
  • ดีไซน์พิเศษแบบ Rimless ที่ช่วยการเกาะติดของคราบสกปรก คงความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีได้ยาวนานขึ้น
  • ฟังก์ชันอื่นๆ เช่น V-Silent เสียงฟลัชเงียบ, ระบบฝารองนั่งอุ่น, ระบบเป่าลมอุ่น, ระบบแสงไฟส่องสว่างตอนกลางคืน เป็นต้น

 

ฝารองนั่งแบบใช้ไฟฟ้า “COVENIC”

ไม่ต้องเปลี่ยนสุขภัณฑ์ ก็เพิ่มฟังก์ชันสุดสมาร์ทได้

 

 

 

  • สำหรับบ้านที่มีชักโครกอยู่แล้ว สามารถเลือกติดตั้งเฉพาะฝารองนั่งที่จะช่วยเติมเต็มความพิเศษ พร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย ตอบรับการดูแล Health & Clean ในปัจจุบัน
  • ก้านฉีดชำระถูกออกแบบมาพิเศษ ตามหลักสรีระศาสตร์และสุขอนามัยของผู้ใช้งาน
  • ตัวก้านฉีดชำระทำจากสเตนเลส ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV ทุกครั้งที่ใช้งาน
  • ฟังก์ชันอื่นๆ เช่น ระบบฝารองนั่งอุ่น, ระบบเป่าลมอุ่น, ระบบแสงส่องสว่างตอนกลางคืน

 

4. ก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้า

                เหนื่อยกันหรือยัง? ถ้ายัง...เรามาทำความสะอาดก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้ากันต่อเลย! อุปกรณ์สองชิ้นนี้มีโอกาสเกิดคราบสกปรกฝังแน่นและเชื้อแบคทีเรีย จากสบู่ล้างมือ โฟมล้างหน้า หรือคราบฟองจากการแปรงฟัน ที่มีคราบไคลและเชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่ นอกจากนี้ อ่างล้างหน้ายังมีโอกาสเกิดเชื้อราจากความชื้น โดยเฉพาะตามซอกโค้งที่ทำความสะอาดไม่ถึง ส่วนก๊อกน้ำนั้นมีความเสี่ยงต่อเชื้อโรคเช่นเดียวกับที่จับสายฉีดชำระ เพราะมือของเราต้องสัมผัสโดยตรง ลองมาดูวิธีทำความสะอาดอุปกรณ์ทั้งสองชิ้นนี้กันดีกว่า


วิธีทำความสะอาดก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้า

 

 

  • ก๊อกน้ำที่ผิวขุ่นมัวไม่ใส่ปิ๊ง สามารถคืนความสะอาดใสได้ด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ ที่หาได้จากในครัว โดยผสมน้ำมะนาวเข้ากับเบกกิ้งโซดา ค่อยๆ ผสมจนเป็นเนื้อครีมข้น จากนั้นใช้แปรงสีฟันเก่าป้ายครีมดังกล่าวแล้วนำมาขัดถูให้ทั่วก๊อกน้ำ และล้างออกด้วยน้ำเปล่า
  • ผสมน้ำยาฟอกขาว : น้ำเปล่า ในอัตราส่วน 1 : 0.5 ใช้ผ้าชุบน้ำยาที่ผสมแล้ว เช็ดทำความสะอาดในทั่วทั้งตัวก๊อกน้ำและคันโยกเปิด-ปิดอีกครั้ง เพื่อฆ่าเชื้อโรค
  • สำหรับอ่างล้างหน้า สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดกรดไฮโดรคลอริกเหมือนกับชักโครก  แต่ใช้ในปริมาณที่เจือจางกว่า  หากน้ำยาทำความสะอาดมีปริมาณกรดไฮโดรคลอริก 15% ขึ้นไป ให้ผสมน้ำยา : น้ำเปล่า ในอัตราส่วน 1 : 2 แต่หากมีปริมาณกรดไฮโดรคลอริกต่ำกว่า 15% ให้ผสมน้ำยา : น้ำเปล่า ในอัตราส่วน 1 : 1
  • เทน้ำยาให้ทั่วอ่างล้างหน้า ปล่อยให้น้ำยาออกฤทธิ์ประมาณ 5 นาที จากนั้นใช้แปรงขัดทำความสะอาดให้ทั่ว ทั้งภายในและภายนอกอ่าง เสร็จแล้วใช้น้ำสะอาดล้างฟองออกจนหมด

 

หมั่นทำความสะอาดก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้าเป็นประจำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง รวมถึงขวดสบู่ล้างมือ โดยเฉพาะบริเวณแป้นกดด้วย เพราะเป็นจุดที่มือของเราสัมผัสอยู่บ่อยๆ โดยใช้ผ้าชุบน้ำยาฟอกขาวเจือจางเช็ดทำความสะอาด หรือเลือกให้ก๊อกน้ำที่มีที่จ่ายสบู่ในตัว และควบคุมการใช้งานผ่านระบบเซนเซอร์ ก็ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาด และใช้ชีวิตที่ Health & Clean ได้มากกว่าเดิม

 

ก๊อกน้ำเซนเซอร์พร้อมที่จ่ายสบู่ในตัว “Aqua Soap”

สะอาดมากขึ้น มั่นใจได้มากกว่า

 

 

 

  • ก๊อกน้ำและที่จ่ายสบู่อัตโนมัติในตัวเดียวกัน
  • ระบบเซนเซอร์ที่แม่นยำ หมดปัญหาน้ำไหลเอง
  • มาตรฐาน COTTO CLEAN ควบคุมสารปนเปื้อนโลหะหนัก
  • ทำความสะอาดง่าย ลดการเกาะติดของคราบด้วยเทคนิคชุบผิวด้วย Nickel-Chromium

 

ก๊อกน้ำ “Touch Faucet”

ควบคุมการเปิดปิดได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว

 

 

 

  • ควบคุมการเปิดปิดด้วยกลไกเรื่องไฟฟ้าสถิตโดยการสัมผัสที่ตัวก๊อกเพื่อเปิดใช้น้ำ และสัมผัสที่ตัวก๊อกอีกครั้ง เพื่อปิดน้ำ
  • มาตรฐาน COTTO CLEAN ควบคุมสารปนเปื้อนโลหะหนัก
  • การใช้งานใช้แบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน อายุการใช้งาน 100,000 ครั้ง
  •  

อย่าลืมสังเกตอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงพื้นและผนังห้องน้ำอยู่เสมอ หากเกิดคราบสกปรกที่มองเห็นชัด สามารถทำความสะอาดเฉพาะจุดได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ถึงเวลาทำความสะอาดใหญ่ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค หรือเลือกใช้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ก็จะช่วยให้คุณมั่นใจในความสะอาดและมีสุขอนามัยที่ดีได้มากขึ้น สามารถค้นหาสินค้าและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cottolife.com

ทั้งนี้ หากพบวัสดุส่วนใดที่ชำรุดเสียหาย ควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนทันที โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำการซ่อม หรือนัดหมายให้ช่างเข้าไปตรวจสอบได้ ผ่านบริการ COTTO Fixing Service บริการพิเศษจาก COTTO ผ่านทางไลน์ @fixingservice รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.cotto.com/fixing-service

 

 

*ที่มา https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/292/เชื้อโรคในห้องสุขา