ต่อเติมโรงรถ บ้านทาวน์เฮาส์ ต้องเริ่มอย่างไร

2022-08-26

ต่อเติมโรงรถ บ้านทาวน์เฮาส์ ต้องเริ่มอย่างไร?
 

 

บ้านทาวน์เฮาส์หรือทาวน์โฮมในปัจจุบัน ถูกออกแบบมาตามแบบของแต่ละโครงการ หลายๆ ครั้งเจ้าของบ้านจำเป็นต้องปรับปรุงบางส่วนเพื่อให้สอดรับกับการใช้งาน ซึ่งหลายๆ บ้านก็ต้องการมีโรงรถ พื้นที่จอดรถเพื่อกันแดดกันฝน แต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัด และข้อกฎหมาย อาจทำให้การต่อเติมโรงรถไม่ถูกต้องได้


วันนี้ COTTO จึงรวบรวมวิธีต่อเติมโรงจอดรถสำหรับบ้านทาวน์เฮาส์มาฝากกัน ลองมาดูกันว่า หากจะต่อเติมโรงรถให้ใช้งานได้ดีและถูกกฎหมายต้องทำอย่างไร

 

คำนึงเรื่องแนวเขตที่ดินในการสร้างโรงจอดรถหน้าบ้าน

 


ถ้าไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน และไม่อยากผิดกฎหมาย ต้องโดนปรับหรือต้องรื้อถอน ก่อนต่อเติมต้องคำนึงเรื่องระยะร่นระหว่างแนวเขตที่ดินเช่นกัน โดยกฎหมายได้กำหนดให้การต่อเติมต้องมีระยะห่างระหว่างอาคารและระยะร่นจากรั้ว เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและบุคคลข้างเคียง ไว้ดังนี้

  • ตัวบ้านต้องมีพื้นที่ว่างไม่น้อยกว่า 30% ของเขตที่ดิน ซึ่งขอบเขตของตัวบ้านต้องไม่เกิน 70% ของเขตที่ดิน
  • การต่อเติมหลังคาหรือกันสาด จะต้องห่างจากแนวเขตที่ดินบ้านที่อยู่ติดกันไม่น้อยกว่า 0.5 เมตร  
  • ผนังด้านที่เปิดประตู หน้าต่าง ที่สูงไม่เกิน 9 เมตร ต้องอยู่ห่างจากเขตที่ดินมากกว่า 2 เมตร ส่วนผนังที่สูงเกิน 9 เมตร ให้ห่างจากเขตที่ดิน 3 เมตร และผนังที่ไม่มีช่องเปิดหรือผนังทึบ ต้องห่างจากเขตที่ดินมากกว่า 0.5 เมตร ยกเว้นมีหนังสือยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย

 

คำนวณพื้นที่โรงจอดรถ

 

 

บ้านทาวน์เฮาส์หรือทาวน์โฮมอาจมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ฉะนั้นต้องคำนวณพื้นที่ทำโรงจอดรถ โดยขนาดพื้นที่ที่จอดรถมาตรฐานตามกฎหมายระบุสำหรับรถ 1 คัน ควรมีขนาด 2.40 x 5.00 ม. และควรเผื่อพื้นที่ด้านข้างไว้ข้างละ 0.70 ม. เพื่อมีพื้นที่ในการเปิดประตู ส่วนระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานควรอยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร  

 

วัสดุและดีไซน์ของหลังคาจอดรถที่เหมาะสม

 

 

วัสดุและการออกแบบสำหรับหลังคาโรงรถ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญและมีมีให้เลือก หลากหลายประเภท ซึ่งคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป เราจึงต้องคำนึงถึงจุดเด่นและประโยชน์ให้เหมาะกับการใช้งานจริงมากที่สุด  
โดยมีวัสดุที่เป็นที่นิยม ดังนี้

  • Metal Sheet  ราคาถูก มีความทนทานสูง ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการรั่วซึม แต่จะร้อนในช่วงเวลากลางวัน และหากฝนตกจะมีเสียงดัง
  • Acrylic (  อะคริลิก ) มีความใสเทียบเท่ากระจกแต่น้ำหนักเบาเนื้อเหนียว ดัดโค้งได้ มีทั้งแบบ ธรรมดาที่กรองแสงแดดได้ระดับหนึ่ง และรุ่นที่กรองรังสี UV แต่มีราคาจะค่อนข้างสูง
  • Fiberglass( ไฟเบอร์กลาส  ) มีน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่น มีสีสันหลากหลายทั้งสีใสและสีขุ่น อาจมีปัญหา เสียงฝนตกกระทบรบกวนอยู่บ้าง และสีอาจซีดจางได้ในอนาคต

 

โครงสร้างการออกแบบโรงจอดรถสำหรับบ้าน ทาวน์เฮาส์

  1. โรงจอดรถแบบไม่มีเสา ควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ การต่อเติมลักษณะนี้จะเหมาะกับงานโครงสร้างเหล็ก และเลือกวัสดุหลังคาที่มีน้ำหนักเบาเพื่อลดภาระการรับน้ำหนัก
  2. โรงจอดรถแบบมีเสาค้ำ คือ ตั้งเสารับน้ำหนักด้านหน้า วิธีนี้เหมาะกับบ้านที่มีที่ดินหน้าบ้านเหลือน้อย และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ในระยะยาวเมื่อพื้นดินเริ่มทรุดตัวตามธรรมชาติ จึงแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และสำรวจหน้างานก่อนการก่อสร้าง

 

พื้นโรงรถต้องพร้อมรับน้ำหนักและปลอดภัย

 

 

เมื่อรถยนต์ 1 คันมีน้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม หรืออาจมากกว่านั้นหากรถยนต์มีขนาดใหญ่ขึ้น ฉะนั้นก่อนต่อเติมพื้นโรงจอดรถจะต้องสำรวจก่อนว่าพื้นโครงสร้างสามารถรองรับน้ำหนักได้มากน้อยขนาดไหน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้พื้นดินทรุดหรือแตกร้าว ซึ่งพื้นลานจอดรถบ้านจัดสรรอย่างทาวน์โฮมทั่วไปจะออกแบบโครงสร้างมาให้ผู้ใช้งานเรียบร้อยแล้วสำหรับการจอดรถคันเล็กๆ ประมาณ 1 คัน  ส่วนพื้นโรงรถที่อยู่บนพื้นดินคนละส่วนกับตัวบ้าน โดยมากนิยมเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กวางบนคานหรือลงเสาเข็ม แล้วเลือกใช้วัสดุเช่นกระเบื้องปูทับ แต่ทั้งนี้หากมีการก่อสร้างต่อเติมเสริมโครงเหล็กหรือเสาเข็มเพิ่มโดยเฉพาะบ้านทาวน์เฮาส์หรือทาวน์โฮมต้องคำนึงถึงข้อกฏหมายอาคารให้ดีๆ

 

เลือกกระเบื้องโรงจอดรถให้ตอบโจทย์การใช้งาน

 


โรงจอดรถเป็นอีกพื้นที่ภายนอกบ้านที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไหนจะต้องรับน้ำหนักของรถ รับแดด รับฝน ฉะนั้นควรเลือกวัสดุที่แข็งแรง ซึ่งในปัจจุบันโครงการจัดสรรทั่วไปนิยมปูกระเบื้องเป็นพื้นโรงจอด ข้อดีของงานกระเบื้องคือ ทำความสะอาดง่าย ทันสมัย ลวดลายสวยงาม อายุการใช้งานทนทาน แต่ทั้งนี้ก็ต้องเลือกชนิดของกระเบื้องที่พื้นผิวหยาบไปจนถึงหยาบมาก เพื่อช่วยเพิ่มแรงเสียดสี เมื่อเปียกน้ำก็ป้องกันการลื่นล้มได้ อีกทั้งกระเบื้องผิวหยาบยังช่วยลดรอยขีดข่วนและยังคงความสวยงามไว้ได้อย่างยาวนาน มากไปกว่านั้นคือไม่ลื่น โดยกระเบื้องกันลื่น เราสามารถดูได้ที่ค่า R หรือ Slip Resistance ควรเลือกที่มีค่า R11 ขึ้นไป โดยเป็นค่าที่ใช้วัดคุณสมบัติการกันความลื่นของพื้นผิววัสดุแต่ละประเภท ที่ได้จากการทดสอบ Ramp Test ที่พื้นในระดับความลาดชันต่างๆ โดยยิ่งตัวเลขมากจะยิ่งกันความลื่นได้มากนั่นเอง
และด้วยความห่วงใยในการใช้ชีวิตของทุกคน COTTO จึงพัฒนาเทคโนโลยีกระเบื้องคอตโต้ R11 Anti Slip Tile กระเบื้องกันลื่นที่มีผิวสัมผัสหยาบกว่ากระเบื้องทั่วไป พร้อมกับดีไซน์ลวดลายสวยงาม มาตอบโจทย์ทุกพื้นที่ และผ่านการทดสอบด้วยมาตรฐานสากล จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการลื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่า R11 ซึ่งเหมาะกับการติดตั้งบนพื้นที่เปียก อย่างพื้นห้องน้ำ ลานซักล้าง พื้นที่จอดรถ และพื้นที่ภายนอกอาคารที่ต้องสัมผัสกับน้ำฝนอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังดูดซึมน้ำต่ำ ลดการสะสมคราบ ทำความสะอาดง่าย ทำให้ไม่เกิดคราบฝังติดหน้ากระเบื้อง เรียกได้ว่าเป็นกระเบื้องคุณภาพดีที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียด กระเบื้อง R11 Anti Slip Tile  เพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3wsYqwB

 


นอกจากนี้ COTTO ยังมีกระเบื้องสำหรับใช้ภายนอก R11 มาแนะนำ กับ “RAGTIME Series” ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่น เหมาะกับการทำพื้นโรงจอดรถ หรือพื้นที่ภายนอก เนื่องจากมีความหนาถึง 18 มิลลิเมตร ทำให้สามารถรับน้ำหนัก ทนทานกว่ากระเบื้องทั่วไป และตัวเนื้อกระเบื้องมีค่าดูดซึมน้ำต่ำ จึงทำให้แข็งแกร่ง หลุดล่อนได้ยาก ซึ่งสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ​​https://bit.ly/3AGKPUW

สุดท้ายทั้งนี้ทั้งนั้นการต่อเติมโรงรถที่ดีต้องปลอดภัยทั้งกับโครงสร้างบ้านเดิมและผู้ใช้งาน ผู้มีแผนต่อเติมโรงจอดรถควรปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อดีไซน์โครงสร้างให้เหมาะสม และเลือกใช้วัสดุที่ได้มีมาตรฐานปลอดภัย ที่สำคัญอย่าลืมเชคข้อกฎหมายอาคารก่อนต่อเติมบ้านให้ดีด้วยนะ

อ้างอิงเพิ่มเติม
http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER17/DRAWER018/GENERAL/DATA0000/00000251.PDF
https://asa.or.th/laws-and-regulations/cba/